Objective test

 Objective test

แบบทดสอบที่วัดเชาว์ปัญญา

Minnesota Multiphasic Personality Inventory (MMPI)

 

 

ความเป็นมาของแบบทดสอบ

       แบบสำรวจบุคลิกภาพ (Personality Inventory) คือ เครื่องมือวัดบุคลิกภาพที่สำคัญที่สุด เป็นวิธีที่ให้บุคคลประมาณตนเอง ปกติแล้วประกอบด้วยคำถามหลายข้อ มีตั้งแต่ 100-500 ข้อ แต่ละคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ให้ผู้ถูกทดสอบอธิบายถึงความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งของ สถานการณ์ และบุคคลแบบทดสอบบุคลิกภาพพัฒนามาจากแบบทดสอบเชาวน์ พยายามปรับปรุงให้มีความแม่นยำ และน่าเชื่อถือที่สุด แบบทดสอบบุคลิกภาพอาจจะวัดลักษณะรวมของบุคลิกภาพหรือวัดเพียงลักษณะหนึ่งลักษณะใดของบุคลิกภาพก็ได้ แบบทดสอบบุคลิกภาพที่สำคัญ ได้แก่ Minnesota Multiphasic Personality Inventory (MMPI)Minnesota Multiphasic Personality Inventory (MMPI)  สร้างขึ้นโดย Hathaway และ McKinley เป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพที่มีชื่อเสียงมาก  MMPI สร้างมามากกกว่า 50 ปีและไม่มีการปรับปรุงจำนวนข้อคำถามและเนื้อหา  ทำให้มีวิจารณ์เรื่องความไม่ทันสมัย การเหยียดทางเพศ คำถามคลุมเครือ คำถามเกี่ยวกับศาสนาอื่น  จึงทำให้มีการปรับปรุงเป็นMMPI-2 ในปีค.ศ.1989 และในคำถามของMMPI-2 ประกอบด้วยมาตรวัดที่ละเอียดมากขึ้น  ให้การอธิบายเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ชัดเจนทั้งทางด้านพฤติกรรมและอีกหลายอย่าง  แต่ก็ยังต้องแปลผลการวัดจากผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น

 

ทฤษฎีที่ใช้ใน แบบทดสอบMMPI

 

 

แนวคิด	ฐานแนวคิด	หลักการสำคัญ
จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis)	พฤติกรรมของบุคคลถูกควบคุมโดยพลังเร้าภายในซึ่งบางครั้งบุคคลไม่ตระหนักรู้ เช่น จิตใต้สำนึก เน้นความสำคัญของประสบการณ์วัยเด็ก	ค้นหาพลังจิตใต้สำนึกและอธิบายว่า พลังเหล่านี้ทำให้บุคคลมีลักษณะบุคลิกภาพต่าง ๆ ออกไป ทั้งบุคลิกภาพปกติและผิดปกติ
มนุษย์นิยม (Humanistic)	บุคคลทั่วไปเป็นคนดีมาแต่กำเนิด แต่บุคคลอาจมีภาพลักษณ์ด้านลบต่อตนเอง ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่บั่นทอน	ภาพลักษณ์ของตน ทั้งทางบวกและลบ มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม
พฤติกรรมนิยม (Behaviorist)	พฤติกรรมของบุคคลเกิดจากการที่บุคคลได้รับการเสริมแรงบวกและทางลบอย่างไร	พฤติกรรมและบุคลิกภาพอยู่ใต้อิทธิพล ของการเสริมแรง
เทรท (Trait)	บุคคลแต่ละคนมีคุณสมบัติต่าง ๆ กันหลายลักษณะเช่น ความซื่อสัตย์ การก้าวร้าว	เน้นการวัดคุณลักษณะต่าง ๆเหล่านั้น และอธิบายว่าพฤติกรรมของคนเกิดจาก Trait  ต่าง ๆ
แนวความคิดเชิงรู้คิด (Cognitive) เช่น (PSE)	พฤติกรรมของบุคคลจากกระบวนความคิด ความเชื่อ และการรับรู้ในสมรรถภาพของตน	ความคิดของเป็นตัวกำหนดการกระทำ และบุคลิกภาพของบุคคล

 

 

การทดสอบ MMPI

การทดสอบเป็นคำถามแบบประโยคบอกเล่า 495 ข้อ พิมพ์อยู่ในบัตร ผู้ถูกถามต้องแยกบัตรเองโดยแบ่งออกเป็น 3 พวก คือ จริงไม่จริง และบอกไม่ได้   ทำเสร็จแล้วจะให้คะแนน คะแนนที่ได้จากแบบทดสอบนี้ จะต้องเปรียบเทียบกับคะแนนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ย 50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 10 บุคคลได้คะแนนเกิน 70 ถือว่ามีอาการน่าสงสัย สำหรับทางแพทย์เราดูคะแนนจากทุก scale ผู้สร้างได้แบ่ง scale ออกเป็น 10 scale ตามประเภทของคนไข้ที่มีอาการผิดปกติ (Pathological Trends) ในโรงพยาบาลมินนิโซตา คือ hypochondriasis, depression, hysteria, psychopath, interest, introvert, extrovert, paranoid, psychasthenia, schizophrenia, hopomania  ต่อมาแบบทดสอบนี้ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ เนื่องจากแบบทดสอบเก่าเสียเวลานาน เพราะต้องทำทีละคน จึงเปลี่ยนใหม่โดยจัดพิมพ์ข้อความทั้งหมดไว้ในสมุดเล็กๆมีการสร้างคำถามเพิ่มขึ้น 566 ข้อ ใน พ.ศ. 2506

การให้คะแนนมี Control key นับดูว่าไม่ตอบเท่าไร ถ้ามากคัดออก นอกจากนั้นยังมี Validity Scale ที่สำหรับใช้วัดว่าผู้ตอบตอบอย่างจริงใจ หรือไม่ตรงกับความจริง มี 3 scale ด้วยกัน คือ

L.Scale ผู้ที่ได้คะแนนสูงใน scale นี้ แสดงว่าแกล้งตอบให้ “ดี” ประทับใจคนอื่น
F.Scale ผู้ที่ได้คะแนนสูงใน scale นี้ แสดงว่าแกล้งตอบให้ดูว่าเป็นคนมีอาการ “ผิดปกติ”
K.Scale ผู้ที่ได้คะแนนสูงใน scale นี้ แสดงว่าแกล้งแสดงอาการปิดบังความเป็นจริงในเรื่องความบกพร่อง และข้อเสียต่างๆ

แหล่งที่:http://www.baanjomyut.com/library/personality/11.html

 

ควรทำการทดสอบบุคลิกภาพเมื่อใด 

1.เมื่อต้องการทราบความขัดแย้งในใจของผู้รับการทดสอบ  ว่าเขามีปัญหาอะไรและเหตุให้เกิดความขับข้องใจ  และเขามีความพยายามหรือความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหาหรือไม่

2.ลักษณะด้านมนุษย์สัมพันธ์  เจตคติและการมองคนอื่นหรือโลกรอบๆตัวของผู้รับการทดสอบเป็นอย่างไร

3.พัฒนาการทางจิตวิทยา  ตั้งแต่เขาเด็กที่ทำให้เขาหลายมาเป็นอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ ดำเนินมาอย่างไร มีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในชีวิตไปในลักษณะใด  เป็นต้น

แหล่งที่มา:หนังสือประมวลความรู้ทางจิตวิทยาคลินิก

 

สรุป (วิเคราะห์)

แบบทดสอบบุคลิกภาพที่สร้างขึ้นโดย Hathaway และ McKinley เป็นแบบทดสอบที่มีชื่อเสียงมากเป็นที่รู้จักในวงการจิตวิทยา  เป็นแบบทดสอบที่เป็นคำถามมีจำนวนหลายร้อยข้อประมาน100-500ข้อโดยแบบทดสอบนี้เป็นแบบทดสอบที่วัดบุคลิกภาพของคนปกติ เพื่อดูแนวโน้มลักษณะของบุคลิกภาพของคนนั้นๆ แต่เพราะการแปลผลของแบบทดสอบนี้MMPIต้องดูทั้งแกนลักษณะของบุคลิกภาพและค่าคะแนนมาตรฐานที่ผู้ที่เข้ารับการทดสอบทำได้ในแต่ละมาตร  ซึ่งถ้าคนปกติทำก็จะแปลผลไปในทิศทางสำคัญคือลักษณะของบุคลิกภาพ  ส่วนใหญ่มักจะใช้ในการสอบคัดเลือก การพัฒนาคัวเอง การเลื่อนขึ้น รวมไปถึงการจัดหรือคัดเลือกบุคคลให้เหมาะสมกับงานที่จะทำ

ข้อเสนอแนะ

1.เป็นแบบทดสอบที่มีความคลุมเครือซับซ้อน

2.เป็นแบบทดสอบที่มีข้อคำถามเยอะยากต่อการอ่านเข้าใจ เสียเวลา

3.แบบทดสอบมีเกณฑ์แบ่งคะแนนยังไม่ชัดเจน